|
Post by joywachira on Mar 8, 2023 10:14:51 GMT 7
พี่ฮิมคะ ช่วงหายใจเข้าด้วยจมูก และ หายใจออกให้ลมออกทางปากอ่ะค่ะ มันมีช่วงที่ไม่ต่อเนื่อง เหมือนต้องคิดว่า ต้องออกทางปากอ่ะค่ะ เราควรฝึกต่อไป หรือ กลับไปหายใจทางจมูกเหมือนเดิมคะ ที่สังเกตคือ ถ้ากายใจทางจมูกจะสบายกว่า แต่ถ้าทางปากออกได้ลึกกว่าค่ะ ขอคำแนะนำจากพี่ฮิมหน่อยนะคะ 🙏🏼
|
|
|
Post by angjila on Mar 8, 2023 11:28:59 GMT 7
🙏🏻🙏🏻🙏🏻กราบครูฮิมค่ะ เช้านี้ ตอนลงนั่งสมาธิ ตอนท้ายๆๆ ชม. จิตสงบ ว่าง แล้วเค้าค่อยๆๆเคลื่อนไปในส่วนต่างๆๆ ของร่างกาย เห็นกระดูก และเนื้อ ตามส่วนต่างๆๆ เค้าเคลื่อนไหวช้าๆ และสงบ รวม นิ่ง เย็น และสุดท้ายพิจารณา ภาพรวมของร่างกายทั้งร่าง ว่าทุกคนเกิดมาตามเหตุและปัจจัยที่สะสมมา ขอน้อมกราบครูฮิมค่ะ 🙏🏻🙏🏻🙏🏻 อนุโมทนานะครับ
|
|
|
Post by chukiat44 on Mar 8, 2023 11:57:16 GMT 7
ขอสอบถามครูฮิม ครับ
ผมมีอาการง่วงในช่วงแผ่เมตตาและกรุณามาหลายครั้งแล้วครับ กล่าวคือ ตอนเริ่มเข้าคลาสครูตุลและครูฮิม จิตและกายผมเปิดกว้างดี พอถึงช่วงครูไกด์ให้แผ่เมตตาและกรุณา จิตและตัวตนของผมจะหายไป กลืนเป็นหนึ่งเดียวกับกลุ่มเป็นก้อนแสงสว่างที่ใหญ่โตมาก แล้วผมก็อธิฐานยกกำลังจิตและสติที่ทำได้ให้แก่สหธรรมมิกทุกๆท่าน แล้วจากหลังนั้น ผมก็จะมีอาการง่ว่งซึมเลยครับ แต่พอออกจากคลาสแล้ว อาการง่วงก็จะหายไปเป็นปกติครับ ขอสอบถามครูฮิมครับว่า อาการง่วงของผมเกิดจากอะไร หรือว่าร่างกายผมเพลียเองแล้วคิดเกี่ยวโยงกับการแผ่เมตตาหรือกรุณาไปเองครับ
|
|
pu
New Member
Posts: 1
|
Post by pu on Mar 8, 2023 12:31:23 GMT 7
ขออนุญาตสอบถามค่ะ🙏 รอบกองไฟ วันที่7/3 ที่พี่ฮิมให้หายใจตามปกติ หายใจนำมือขยับตาม รู้สึกตัวเองหายใจตื้นมากเลยค่ะ และถ้าจะดึงหายใจยาว จะต้องออกแรงตั้งใจ แบบนี้ เราควรฝึกทั้งแบบดึงหายใจยาว สลับกับหายใจตามธรรมชาติบ้างไหมคะ ขอบคุณค่ะ🙏
|
|
|
Post by เจมี่ shunami on Mar 8, 2023 13:58:47 GMT 7
him 45 ขออนุญาตรายงานพี่ฮิมค่ะ เพราะใด้แสงสว่างจากขันธ์นอก จากฝั่งพี่ฮิม เป็นครั้งแรก ที่เข้าใจเรื่องขันธ์นอกที่ละเอียดขึ้น และเกิดความเข้าใจตามมาคือ ขันธ์นอกและขันธ์ในนี้ รวมเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่มีใครในนัันทั้งสองขันธ์ ถ้าจะแบ่งก็คืออัตตาที่ยังไม่แจ้งค่ะ แล้วรู้สึกจิตเกิดเมตตาอย่างล้นหลาม จิตยิ้มเองออกมาจากข้างใน ส่งให้หน้ายิ้มตาม มีปิติ เหมือนจิตทั้งจักวาล อารมณ์เหมือนรักโลก รักคนทั้งโลกนี้ แผ่กระจายออกค่ะ เช้านี้ก็ยังมีเกิดขึ้นเรื่อยๆ แต่ประกอบด้วยความเข้าใจ เพราะหมดแรงส่งเด๊วก็เปลี่ยน จิตเลยอะไรก็ใด้ จะเกิดภาวะแบบนี้ก็เกิดไป หรือเวลาหมดแรงส่งก็ยอมรับใด้ ตามเหตุปัจจัยค่ะ และจิตติดใจ มีความเอาใจใส่ที่เห็นสัญญาขันธ์ เมื่อวาน เมื่อมีสัญญาว่าตัวตนมี เรา เจมี่ก็เกิดขึ้น จึงมีสังขารขันธ์เกิดขึ้นเป็นตัวตนขึ้นมาอีกชั้น เหมือนจิตพอใจที่ใด้เห็นและเข้าใจค่ะ ถ้าพี่ฮิมมีอะไรเพิ่มเติมชี้ด้วยค่ะ กราบขอบพระคุณค่ะ อนุโมทนายิ่งค่ะ🙏
|
|
วาด
New Member
Posts: 2
|
Post by วาด on Mar 8, 2023 21:19:58 GMT 7
กราบสวัสดีค่ะพี่ฮิม เย็นวันนี้ 8 มี.ค.66 ได้เข้ารวมญาติ รีรัน Ep 326 เกิดสภาวะสุขเวทนา ปิติเอ่อล้น น้ำตาไหลรินเป็นสายมาตลอดช่วงท้ายๆ พร้อมอาการจุกที่คอหอยเกือบตลอดเวลา พยามมองว่ามันไม่ใช่ลมหายใจ มีผ่อนบ้าง มีคลายบ้าง แต่ก็มีอาการใจเหนื่อยและเพลีย แม้ออกจากทางของกรมแล้ว เรียนถามว่าควรพิจารณาสภาวะเช่นนี้ ต่ออย่างไรค่ะ กราบขอบพระคุณค่ะ
|
|
|
Post by Yok Patchira on Mar 11, 2023 11:21:49 GMT 7
กราบครูฮิมค่ะ รบกวนสอบถามอาการแน่นหน้าอกระหว่างการฝึกอานาปานสติค่ะครู เช้านี้เดินหายใจออกทางปากแน่นหน้าอกมากกว่าเก่าค่ะ แต่รู้สึกถึงความสว่าง ว่าง แยกเป็นต่างหาก ความแน่นความทรมานแยกอีกส่วนได้อยู่บ้างค่ะ หรือเป็นเพราะหนูดูจิตไม่เป็นเลยไม่รู้จับตรงไหน พอพยายามจับความว่างกลางอกเลยแน่นไปใหญ่ คงตั้งใจมากไปรึเปล่าคะ ต้องแก้ยังไงได้บ้างคะ กราบขอคำแนะนำค่ะ
|
|
|
Post by ส้ม Nawaliw on Mar 12, 2023 20:32:56 GMT 7
พี่ฮิมคะ
วันนี้ (5 มี.ค. 66) ส้มร่วมเดินกับสหธรรมิกวรการรอบเช้าจากซูมค่ะ ตอนทำท่าเคลียร์กาย 5 ท่า แผ่เมตตา มุฑิตาก็ยังรู้สึกเบากายเบาจิตคล้าย ๆ ที่ปกติร่วมเดินจงกรมในคลาสอื่น ๆ ค่ะ
ทีนี้พอเข้าช่วงดูเจตนา ดูอัตตา ก็ง่วง มืด ไม่ค่อยเห็นเจตนาหรืออัตตาค่ะ ส่วนใหญ่มันทึบ มืด ง่วงค่ะ แต่ตอนที่พี่ฮิมบอกว่า คิดว่าตัวเราเป็นคนทำ ช่วงนั้นมันคิดง่ายขึ้น และตัวทึบ หนักขึ้นมา อันนี้รู้สึกได้ชัดค่ะ
เรื่องความง่วง มืด ทึบ มองไม่เห็นเจตนา จะต้องยังไงกับตอนนั้นดีคะ มองและยอมรับไปเฉย ๆ ว่า มันเป็นแบบนั้นเลยไหมคะ บางครั้งผมก็เข้มงวดมากไปหน่อย ก่อนจะเห็นเจตนา วิธีที่ดีที่สุดคือ ทำให้จิตเปิด ว่างจากกลางอก หรือกลางตัว กายระงับ มีความสว่าง แล้วตอนนั้นเวลาดูเจตนาจะง่ายครับ ส่วนที่หนักเนี่ย อันนี้ต้องโทษผมได้เลย เพราะตั้งใจไกด์ให้เห็นอัตตา จนภาวะรวมของห้องมันหนักขึ้นมาขอบคุณพี่ฮิมมากค่ะ
|
|
|
Post by ส้ม Nawaliw on Mar 14, 2023 21:26:54 GMT 7
ส้มขออนุญาตส่งการบ้านสภาวะ และมีคำถามเพิ่มเติมค่ะ
สภาวะจากรอบกองไฟ 14 มี.ค.2566 ค่ะ
• การบ้านจากครั้งก่อน • ย้อนไปวันอาทิตย์ที่ 12 ตอนเดินจงกรมรอบเช้าที่วรการ ส้มได้ถามพี่ฮิมเรื่องปัญหาการดูลมหายใจแบบอานาปานสติ ตอนนั้นพี่ฮิมได้ให้ลองดูลมให้พี่ฮิมดูตอนนั้น หลังจากที่ดูแล้วพี่ฮิมก็บอกว่า ให้จิตมันเปิดกว่านี้ก่อน
• สภาวะวันนี้ •
< การดูลมหายใจ > พอมาถึงค่ำวันนี้ หลังจากพี่ฮิมไกด์ โดยเฉพาะไกด์ให้น้องอานนท์ ประเด็นที่ว่าจิตมันมาอยู่ตรงหน้า ให้น้องดูตรงกลางแล้วค่อยไปดูลม ส้มฟังแล้วเหมือนจิตมันเก็ตแล้วมันเดินตามที่พี่ฮิมไกด์ให้น้องไปด้วย ประกอบกับช่วงถัดมาได้รับพลังกลุ่มแบบอลังการมาก กว้างขวางท่วมท้น สว่างจ้าไปหมด จนกระทั่งสภาวะเห็นลมหายใจอยู่ไกล ๆ แทบไม่รู้สึก ตรงกลางด้านหน้าตัวว่างโบ๋ เหลือแต่เท้ากระทบ รู้สึกกายเหลือนิดเดียวค่ะ บางจังหวะเหลือแต่เท้าที่กระทบกับด้านหลังเป็นแถบ ๆ บางครั้งต้องลองตั้งใจสูดลมหายใจ เข้าออกลึก ๆ ให้มันเจอลมหายใจ พอพี่ฮิมย้ำให้รู้กายทั้งกาย ก็ค่อย ๆ กลับมารู้กายมากขึ้นค่ะ
โดยสรุป คาดว่าวันนี้จิตน่าจะพอเข้าใจเรื่องการดูลมแบบอานาปานสติมากขึ้น และคลายอาการเพ่งลมหายใจจนเกร็งแน่น มากระจุกอยู่ที่หัวจนหนัก จนง่วง กลายเป็นทรมานหายใจไม่พอ ไม่เป็นธรรมชาติไปได้บ้างค่ะ
< การลองดูอัตตา > ลองเอามือแปะฝาตู้ที่เป็นไม้ ตอนแรกมือกับเท้าหายไปเลยค่ะพี่ คือ เหมือนมันเป็นส่วนหนึ่งกับฝาตู้และพื้นห้อง เหลือชัดที่ลมหายใจ ที่หัวใจ แล้วก็มาที่ตา ที่หัว ประมาณนี้ จนสักพักค่อยมีมือ มีเท้าชัดขึ้นมาเป็นก้อน ๆ ค่ะ รู้สึกได้แค่นี้ค่ะพี่ ※ เรื่องที่ขอเรียนถาม/ขอปรึกษากับพี่ฮิม ※
🙇🏻♀️ ส้มต้องฝึกให้จิตมันเปิดกว้างเพียงพอก่อน จึงจะดูลมแบบอานาปานสติได้ใช่ไหมคะ
🙇🏻♀️ หากอยากจะดูอานาปานสติในชีวิตประจำวันให้เป็นอัตโนมัติ ก็ต้องทำให้จิตใหญ่ จิตมีคุณภาพมากพอในชิวิตประจำวันเองได้ จึงจะดูลมแบบอานาปานสติในชีวิตประจำวันโดยอัตโนมัติได้ใช่ไหมคะพี่
🙇🏻♀️ ถ้าใช่ ส้มควรฝึกเพิ่มเองยังไงอีกบ้างคะพี่ ถ้าไม่รวมถึงการเข้ามาร่วมเดินกับสหธรรมิกในไลฟ์หรือรวมญาติ (อันนี้ตั้งใจว่าจะพยายามเข้าให้ได้มากที่สุดค่ะพี่)
|
|
|
Post by Paninee Maem on Mar 15, 2023 7:03:31 GMT 7
พี่ฮิมคะ เช้านี้แหม่มตื่นมารวมญาติไม่ทัน เลยเดินเองตอนตี 5:30 น. ด้วยเทปรีรันของวันเสาร์ ตอนช่วงแรกๆ ก็มีอาการเดิมของช่วงนี้ คือกายเบาๆ ใจเบาๆ แต่หัวก็ฟุ้งยุ่งไปเรื่อยๆ หลุดเข้าไปอยู่ในความคิด แต่พอสักช่วงกลางๆ มันเห็นตามที่พี่ฮิมโค้ช คือ มันเห็นความคิดเกิดขึ้น ปรุงให้เกิดอารมณ์อย่างนึง แล้วจิตก็เข้าไปยึดกับอารมณ์นั้นๆ พอเห็นก็คลาย เป็นอย่างนี้ไปเรื่อย จนมันเกิดความเข้าใจขึ้นมารางๆ ว่า ตราบเท่าที่มีกายใจอยู่แบบนี้ มันก็จะสร้างความยึดอย่างนี้ไปเรื่อยๆ มันจะไหลไปตามสิ่งที่กายใจนี้สร้างสมมาแบบนี้แหละ จนเราสร้างเหตุใหม่ในการที่จะเข้าไปเห็นแล้วปล่อยได้เป็นจุดๆ ที่เห็น
หนูตั้งใจที่จะเอาเรื่องความยึดความเกาะเกี่ยวไปถามพี่ฮิมในครั้งถัดไปว่า ทำอย่างไรจึงจะเบาบางลงได้บ้าง แต่เช้านี้เหมือนได้เห็นคำตอบจากพี่ฮิมว่า มันทำไม่ได้ ตราบเท่าที่ยังเป็นกายใจนี้อยู่ มันก็จะไหลไปตามนี้ ยึดไปอย่างนี้อัตโนมัติ จนกว่าเราจะสร้างเหตุใหม่คือเข้าไปเห็นตอนมันยึดอยู่เรื่อยๆ มันก็จะปล่อยได้ ณ จุดนั้นๆ และกลับไปใหม่ หนูเข้าใจถูกต้องมั้ยคะ
มันมีบางช่วงที่เกิดเวทนาทางกายขึ้นมา (ปวดท้อง หิว) มันก็เริ่มเกิดการไม่ตีความความเจ็บนั้น เหมือนจะเข้าใจขึ้นมารางๆ ของคำว่า สักแต่ว่า พอช่วงท้ายๆ การปฏิบัติ จิตเริ่มดิ้นรน เพราะกลัวจะไม่ได้นอนต่อ ก็เห็นตามที่พี่ฮิมโค้ชว่า ใจมันอยากได้สุขมากขึ้นๆ มันต้องพยายามเข้าไปแก้ เข้าไปทำอะไรสักอย่าง แต่เราก็ไม่ต้องทำอะไร ดูมันดิ้นไป
เช้านี้ก็เห็นประมาณนี้ค่ะพี่ฮิม กราบขอบพระคุณพี่ฮิมมากค่ะ
|
|
|
Post by nutty Jeezooya on Mar 15, 2023 14:19:30 GMT 7
เรียนครูฮิม เมื่อคืนช่วงหนึ่งตี้ปฏิบัติร่วมรอบกองไฟวันที่ 14 มี.ค. 66 ในซูม เหมือนจิตปรุงแต่งว่าตัวเองลอยขึ้นไปนั่งบนอากาศเหนือพื้นโลก มองลงมาเป็นท้องฟ้า บ้านเรือน ยอดต้นไม้ ไม่ใช่ความสว่างเหมือนอย่างเคยนะคะ ลักษณะว่าตัวเองขึ้นไปยืนบนยอดเขามองลงมาเห็นทิวทัศน์ธรรมชาติ เพียงแต่การเห็นครั้งนี้ เห็นแบบชัดเจนตามขนาดจริง ไม่ใช่เห็นแบบร่ำไรไกลๆเหมือนไปยืนบนยอดภูแล้วมองลงมาประมาณนั้นคะ ลมหายใจโล่ง มีเวทนาทางกายหนักหนา มีความโล่งว่างสว่างกลางอกเป็นพักๆ ความคิดฟุ้งมาเป็นระยะ แต่ก็ผ่านมาผ่านไป เหนื่อยกายแต่ไม่มีผลต่อความเพียรทำจนจบไลฟ์ได้คะ ขอบพระคุณคะ และวันนี้ มีความคิดผุดขึ้นมาในหัวว่า "ระลึกถึงว่าถ้าเราจะตายตอนนี้ขอให้เรามีนิพพานเป็นที่ไปอย่างเดียว มีความน้อมระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า และตั้งใจที่จะละอกุศลจะคิดระลึกสิ่งที่เป็นกุศลเข้ามาแทนที่" คะ
|
|
|
Post by ตั๊ก Nalis on Mar 18, 2023 6:40:33 GMT 7
เรียน พี่ฮิม
ขออนุญาตเล่าสภาวะในเช้าวันนี้ รตต.105 (ส.18 มี.ค.66) ค่ะ
วันนี้รู้สึกถึงความโล่งว่างได้เองอย่างไม่ต้องพยายามตลอดทางจงกรมเลยค่ะ
ทั้งนี้ก็เป็นความรู้สึกที่สืบเนื่องมาจากไลฟ์ EP331 เมื่อคืน (ศ.17 มี.ค.66) ที่ผ่านมาของพี่ตุลย์ด้วยค่ะ
ระหว่างเดินเช้านี้มีอาการหาวบ่อยมาก แทบตลอดเวลา แต่ไม่รู้สึกว่าหงุดหงิดหรือต้องข่มไม่ให้หาว
เกิดความรู้ขึ้นเองว่ามันเป็นเพียงปฏิกิริยาของร่างกายเท่านั้น ใจเราไม่ได้รู้สึกว่าง่วงนอน และไม่เกิดความคิดที่ว่าเมื่อคืนนอนน้อยนะ ควรจะนอนสิ (คือไม่ได้เอาความรู้สึกว่าง่วง หรือไม่ง่วงมาสนใจ)
มันมีความเต็มใจในการปฏิบัติ รู้สึกว่าร่างกายมันก็มีอาการอย่างนั้นของมันไป ใจเราไม่ได้ร้อนรนตาม
พิมพ์ถึงตอนนี้ก็เลยเกิดความสงสัยว่านี่คือการแยกกายแยกจิตหรือเปล่าคะ
ตอนพี่ฮิมพูดถึงม้าแยกร่าง หรือเดินถอยหลังตกเหว ใจมันนิ่งพร้อมเผชิญหน้าอย่างไม่รู้สึกกลัวตายเหมือนอย่างที่เคยเป็น
เดิมทีรู้สึกว่าถ้าตายไปในทางจงกรมเลยก็ดีสิ แต่จิตก็ยังสั่นไหว ยังเสียดายกายนี้นิดๆ อยู่
แต่วันนี้พร้อมมาก ไม่รู้สึกกลัว ไม่สั่นไหว ไม่ท้าทาย พร้อมเผชิญหน้าถ้าความตายจากร่างนี้จะเกิดขึ้น ณ ขณะนั้น (แต่ตอนที่พิมพ์อยู่นี้ไม่รู้สึกอย่างนั้นแล้วนะคะ ขออยู่ต่อก่อนค่ะ )
จบการรายงานและคำถามเพียงเท่านี้ค่ะ กราบขอบพระคุณพี่ฮิมค่ะ
|
|
|
Post by Da - Thida on Mar 22, 2023 1:18:35 GMT 7
กราบครูฮิมค่ะ
หลังจากจบคลาสแล้ว พอดียังรู้สึกถึงกระแสจิตมีกำลัง ก็เลยมานั่งที่เก้าอี้ทำงานตอน 22.32 น. กะว่าขอฝึกอานาปานสติต่ออีกสักพักค่อยนั่งทำงานต่อ จำได้ว่าการเริ่มทำอานาปานาสติจะต้องเริ่มจากกายเบาและจิตที่ว่าง แต่นั่งแล้วก็ไม่อยากลุกไปทำท่าเคลียร์กายต่อก็เลยนึกถึงคำสอนเกี่ยวกับ "มุมมอง" ก็เลยดัดแปลงท่าเคลียร์กายของครูฮิมให้ง่ายโดยนั่งทำแทนแล้วใช้รู้การเคลื่อนไหวเฉพาะมือโดยใช้ความต่อเนื่องของการเคลื่อนไหว ไม่กี่การเคลื่อนไหวกายก็เริ่มเบาและสว่าง ความสว่างปรากฎเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างที่ครูฮิมบอกว่าพี่ดายังเห็นสว่างกว่านี้ได้อีก มันสว่างแบบอยู่เปรี้ยงกลางแดดตอนเที่ยงเพียงแต่ไม่ร้อน พี่ดาเข้าอานาปานสติกำหนดรู้ ลมหายใจเข้าออก อยู่ในสภาพ เบา สว่าง ว่างจากกลางอกแบบนั้นนานมาก เห็นจิตที่เป็นดวงใสเกิดขึ้น ดับไป อยู่หลายดวง บางดวงอยู่นิ่งสักพักก็ดับไป เห็นจิตดวงเล็ก ใหญ่ แผ่ไม่เท่ากัน เกิดแล้วดับ ท่ามกลางแสงสว่างเบา ลมหายใจมองไม่เห็นเป็นลำ แต่พอเห็นเป็นมวลขาว ๆ บ้างตอนปล่อยออก เห็นไม่ชัดเพราะมันสว่างมากจนไม่เห็นลม แต่สักพักก็หายใจเข้าออกแบบธรรมดาที่ไม่ใช่ทางปากแบบไม่รู้ตัว กลับไปหายใจทางจมูกเหมือนเดิม ลมหายใจละเอียดแต่ยังไม่ประณีต (เพราะเคยสัมผัสลมหายใจที่ละเอียดและประณีตได้ากกว่าคืนนี้) ตอนช่วงจะออกจากสมาธิก็เกิดนิมิตภาพสี พี่ดาก็เลยปฎิบัติตามที่ครูฮิมแนะนำให้รู้สิ่งที่เป็นลมหายใจกับสิ่งที่ไม่ใช่ลมหายใจ กำหนดสักพักภาพนิมิตก็ดับไป ก็เลยถอนออกจากสมาธิและเหลือบมองนาฬิกาเป็นเวลา 23.46 น. เผลอแป๊บเดียวนั่งนิ่งไปถึงชั่วโมงกว่า ขอรายงานสภาวะที่ได้มาฝึกต่อให้ครูฮิมทราบค่ะ
พี่ดา มีคำถามสอบถามครูฮิม ดังนี้ค่ะ
1. ถ้าเราฝึกอานาปานสติ สิ่งสำคัญคือการรู้ลมหายใจเท่านั้นใช่มั๊ยค๊ะ ถ้าจะต้องพิจารณารู้สภาวะอื่น ๆ ควรจะต้องไปปฎิบัติในการเจริญวิปัสสนาในทางจงกรมใช่มั๊ยค๊ะ 2. บางครั้งเวลามา LIVE ถ้ามาไม่ทันเพื่อมาเคลียร์ก่อนเข้า Zoom เพื่อให้กายเบาหรือจิตเปิด ได้อย่างรวดเร็วเพื่อที่จะใช้ในการแผ่เมตตาและการกำหนดจิตรวม พี่ดาสามารถลดท่าเคลียร์กายท่าเดินจงกรมออกและทำเฉพาะการเคลื่อนไหวทางมือแทนเพื่อให้เปิดทุกด้านได้อย่างรวดเร็วได้หรือไม่ค๊ะ 3. สภาวะพลังของจิตรวมจะมีการคงสภาวะค้างได้นาน ๆ หรือไม่ บางครั้งพี่ดาเองฝึกคนเดียว ในระหว่างทางจงกรมเหมือนจิตสัมผัสกำลังจิตนอกส่องมาเหนือศรีษะเหมือนมาดูเราปฏิบัติ หรือมาช่วยเสริม (ตามความรู้สึกแว๊บแรก เป็นครูบาอาจารย์ท่านใด) จะเป็นแสงแผ่ใสสว่างรู้สึกถึงความเมตตา ช่วงนี้จะสัมผัสได้บ่อย แต่ตอนสัมผัสก็แค่รู้ แค่เห็น แต่ก็แอบน้อมขอบคุณ
ขอบพระคุณครูฮิมค่ะ
|
|
|
Post by nutty Jeezooya on Mar 22, 2023 17:40:56 GMT 7
รายงานสภาวะเมื่อคืนฟังไกด์ของครูฮิม รู้ถึงการแยกขาดระหว่างกายกับจิต ขาดเป็นสองท่อนคะ ช่วงบนมีความสุข สงบโล่งว่าง สบายๆ แต่ช่วงล่างเกิดเวทนาปวดหลังรุนแรงมากคะ ก็รับรู้ไปอย่างนั้นแบบจำนนต่อสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้างานอ่ะคะ ไม่ได้เจริญอานาฯเท่าที่ควรนะคะ กะปิดกะปอย เพราะงานและปวดหลังจากการขับรถคะ เมื่อคืน แต่สภาวะปรากฏเองคะ ขอบคุณคะ
|
|
|
Post by Da - Thida on Mar 22, 2023 22:45:07 GMT 7
กราบครูฮิมค่ะ
ขออนุญาตรายงานสภาวะการปฎิบัติรวมญาติคืนนี้ค่ะ (22/3/2566) เป็นคลิปรีรันของอาจารย์ตุลย์ตอนเช้าค่ะ ช่วงหลังแผ่เมตตาเสร็จอาจารย์ให้ฝึกอานาปานสติต่อซึ่งพี่ดาเลือกที่จะนั่งฝึกคืนนี้ (ตอนเช้ายืนฝึกแล้ว) ซึ่งก็จะเหมือนทุกที คือ เบา สว่างจร้า นิ่งอยู่นาน ก็รับรู้กายสว่างกับลมหายใจไป แต่มีคิดไปว่า ความสว่างมันไม่เที่ยง มันหลอก จะชอบทำไม แต่จังหวะนั้นเป็นช่วงที่อาจารย์เรียกให้ไปยืนที่หัวเสื่อเพื่อให้เดินจงกรม จังหวะที่เดินไปพี่ดาเดินหลับตาซึ่งความสว่างกับสมาธิยังคงค้างอยู่ แต่พอเริ่มเดินถอยหลังก้าวแรก ความสว่างหายไปทันทีเป็นความมืดสนิทแทน เงียบ ไม่เห็นแสงใดเลย พี่ดาเช็คความเบาและว่างที่อกก็ยังมีอยู่ พี่ดาก็ยังเดินต่อไป แต่ตอนนั้นเช็คอารมณ์ตัวเองว่าเป็นอย่างไร กลัวหรือเปล่า ตกใจมัีย สงสัยมั๊ย หรือไม่ชอบที่มันมืดหรือเปล่า แต่ตอนนั้นได้คำตอบเฉย ๆ เหมือนก็แค่เห็นภาพสีดำ สักพักก็เริ่มมีแสงสว่างของจิตเรื่อ ๆ แผ่ออกมาตอนนั้นเป็นช่วงจบพอดี ก็ออกจากสมาธิไปเพราะนึกว่า Admin จะ leave zoom แล้ว แต่ปรากฏว่า Admin rerun ต่ออีกรอบ พี่ดาก็เลยไปนั่งฝึกอีก ปรากฏว่า คราวนี้การเข้าอานาฯ ก็เป็นไปตามปกติแต่จิตเหมือนลังเลว่าจะปรุงแสงให้สว่างจร้าเหมือนทุกทีหรือเปล่า แสงสว่าง drop ไปเหลือแค่ประมาณ 25% นิ่งอยู่แบบนั้นนาน ทำให้เห็นได้ชัดเลยว่า ตอนที่สว่างสุด ๆ ความรู้สึกปิติต่างกับตอนนี้มาก รู้เวทนาไม่เที่ยง นิ่งอยู่ในสภาวะนั้นไปนานมาก เช็คอารมณ์ของจิตว่าไม่ชอบสภาวะแบบนี้หรือเปล่า แต่เหมือนจับอารมณ์ไม่ได้ว่าเฉย ๆ หรือไม่ชอบ อยู่ดี ๆ จิตก็ปรุงแสงสว่างค่อย ๆ จร้าขึ้นมาอีกแค่สว่างกว่าเดิม พอให้รู้ว่าปิติเพิ่มกว่าเดิม แต่ไม่สุด
ขอสอบถาม ดังนี้ค่ะ
1. รบกวนครูฮิมช่วยธิบายภาวะของจิตที่เป็นสภาวะแบบนี้หมายถึงอะไร ไม่แน่ใจว่าจิตเริ่มจะเรียนรู้ที่จะละการชอบแสงสว่างหรือเปล่าค๊ะ แต่ก็ยังจะละไม่ได้ 2. ตั้งแต่แรกเริ่มฝึก พี่ดายังไม่เคยเห็นจิตตัวเองเป็นดวงใส ๆ แต่ตั้งแต่เริ่มฝึกอานาปานสติจะเริ่มเห็นจิตที่มีรูปร่างเป็นดวงใส ๆ บ่อยขึ้นและชัดมากขึ้น ที่เห็นจิตเป็นดวงได้ เพราะจิตมีควมเป็นสมาธิเพิ่มขึ้นใช่หรือไม่ค๊ะ 3. อาการกลืนน้ำลายบ่อย ในช่วงแรก ๆ ไม่หายสักทีค่ะ ไม่ทราบว่าผิดหลักในการฝึกหรือไม่ การหายใจไม่ติดขัดแต่มากลืนน้ำลายบ่อย แต่ถ้าตอนลมหายใจเข้าที่ละเอียดหยุดหายใจออกทางปากจะไม่มีอาการนี้เกิดขึ้นค่ะ 4. ในการฝึกอานาปานสติต้องหยุดการเคลื่อนไหวของกายให้นิ่งใช่มั๊ยค๊ะ ถ้ายืนนาน ๆ แล้วขาเริ่มแข็งตึง ต้องกำหนดจิตยังงัยค๊ะ
ขอบคุณค่ะ
หมายเหตุ: ขอคำแนะนำในการฝึกเพิ่มเติมด้วยนะคะ (ถ้ามี)
|
|
|
Post by เจมี่ shunami on Mar 22, 2023 23:18:14 GMT 7
สวัสดีค่ะพี่ตุลย์ พี่ฮิม🙏 ขอรายงานสภาวะค่ะ เมื่อวานคลาสรอบกองไฟพี่ฮิม เหตุเพราะช่วงนี้ใกล้ๆที่ทำงานปิดซ่อมสะพานเก่าแก่ ต้องใช้เวลาซ่อมนาน3เดือน ถนนปิด ต้องขับรถอ้อมไกลไปทำงาน เลิกงานก็ถึงบ้านช้ากว่าปกติ พอเข้าคลาสพี่ฮิมก็เกือบครึ่งช มแล้ว กว่าจะกินข้าวเที่ยงเสร็จ ถึงมาเดินก็ปาไปเกือบช ม เดินๆไปแรกๆจิตก็ไม่ปิติสุขเป็นสมาธิอะไร กายเหนื่อย ปวดเท้ามาก ปวดตลอดขณะเดิน แต่เดินไปก็เห็นจิตเปิด ลมหายใจสบายๆโล่ง สลับรู้เวทนาไป พอเริ่มเข้าเกือบช ม เห็นกล้ามเนื้อขา เห็นร่างโครงกายเดินไปๆมาๆ สลับกะรู้เวทนาที่ปสดเท้าช้ายเป็นระยะ เห็นกล้ามเนื้อขาและเท้าซ้ายผิดรูป เกร็ง ผิดปกติสลับกะเห็นจิตเปิด ลมหายใจเข้าออกสบาย จนถึง2นาทีสุดท้ายพี่ฮิมปิดคลาส จิตรวม เวทนาทางกายที่ปวดเท้าอยู่แท้ๆ มันดับหายไปวูบหนึ่ง จิตเกิดปิติชุ่มชื่น เวทนาทางกายแยก ไม่เกิดเวทนาอยู่ชั่วขณะจิตหนึ่ง พูดแบบซื่อคือ ปวดเท้ามาก แล้วอาการปวดหายแบบปลิดทิ้งไปเลย พอพี่ฮิมปิดคลาส จิตก็เคลื่อนออกจากสมาธิ กลับมาปวดเหมือนเดิม แต่ต่างไป
และเช้านี้เข้าคลาสพี่ตุลย์ จิตก็เข้ากะกระแสรวมใด้ระดับหนึ่ง และมีช่วงหนึ่งที่จิตเปิดโล่ง มีกำลัง แยกลมหายใจเข้าออกกะจิตปรุ่งแต่ง ออกจากกัน ปกติเจมี่จะหายใจเหมือนติดๆขัดๆ หรือบางทีเหมือนลมหายใจสั้นขาดเป็นห้วงๆ หรือเหมือนกลั้นลมหายใจ แต่มีหลายครั้งพี่ฮิมดูหายใจเป็นธรรมชาติดี นั้นแปลว่า ไม่มีปัญหากะลมหายใจ น่าจะเพราะเคยกดเพ่งลมหายใจจนเป็นนิสัย เพราะตอนเป็นซึ่มเศร้าด้วย เลยกลายเป็นธรรมชาติจิตตะสังขารปรุ่งแต่ง กรรมให้ทุกข์ ไม่สบายเมื่อหายใจ พอเช้านี้ เห็นจิตตะสังขาร ที่เป็นความทุกข์ติดขัดเรื่องหายใจ แยกออกจากลม แยกกันเป็นคนละชั้น คนละขันธ์ ถึงใด้เห็นความจริงที่ถูกปิดบังเอาไว้ ว่ามีเรา มีเจมี่ ที่ต้องทุกข์ทรมาน รับผลของกรรมวิบากนี้ ที่ต้องหายใจลำบาก ติดขัดมานาน เป็นเรามานาน เช้านี้เห็นแยกขาดออกจากกันชัดเจน ทั้งที่เมื่อก่อนลมกะจิตดวงนี้ ติดกันจนแนบสนิท จนเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นมาก่อน พอเห็นเช่นนั้น ความรู้สึกคือลมหายใจเข้าออก ก็คือลมเปล่าๆไม่มีใคร จิตปรุ่งแต่งทุกข์ที่แนบกะลม ก็เป็นจิตอีกดวงหนึ่ง ซึ่งเคยเป็นเรามานาน เราเคยรับผลทุกข์ทรมานกะเรื่องนี้มานาน มันไม่มีเรา เกิดความรู้ความเข้าใจขึ้นมา ทั้งสองสิ่งนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ใคร ไม่มีตัวตนของใคร มีแต่จิตที่ถูกโมหะครอบงำบังเอาไว้มานาน ถูกเปิดเผยความจริงให้เห็น จิตหลังจากนั้น คือความเข้าใจ ไม่มีใครในสิ่งที่ถูกเห็น มีแต่เหตุปัจจัยที่หมดผลจบลง ความรู้สึกคือจิตมีกำลัง สว่าง เบาสบาย เหมือนยกของที่แบกมานานออก จากอก และมีความวางเฉยตามมาค่ะ กราบ🙏ขอบพระคุณครูพี่ตุลย์ และพี่ฮิมค่ะ
ลองเปลี่ยนไซด์ตัวหนังสือแล้ว แต่ยังเล็กเหมือนเดิม
|
|
|
Post by Da - Thida on Mar 23, 2023 16:07:51 GMT 7
กราบครูฮิมค่ะ
พี่ดาเพิ่งฝึก รตต 106 เมื่อตอนรอบบ่ายสอง ดูเหมือนจากสภาวะของเมื่อคืนจะได้รับคำตอบจากการปฏิบัติเมื่อกี้นี้แล้ว แต่ยังงัยขอฟังครูฮิมสรุปดีกว่า ส่วนสภาวะในการปฏิบัติเมื่อสักครู่นี้ คือตอนปรุงกายด้วยท่ากรรมฐาน 5 ท่านั้น กายมันเบามากตั้งแต่ตอนแผ่เมตตาแล้วค่ะ รับรู้การเคลื่อนไหวทุกท่าได้อย่างชัดเจน ลมหายใจเข้าออกเนียนละเอียดทุกการเคลื่อนไหว ระหว่างเคลียร์กายครั้งนี้แตกต่างจากที่เข้าคลาสครูฮิมเมื่อวันอังคารคือไม่มีแสงสว่าง อย่างมากก็แค่นวล ๆ เบา ๆ แต่อยู่กับมวลลมมากกว่ามันว่างและเบา ตอนทำไม่รู้ปิติแต่แค่รู้สึกโล่งและผ่อนคลาย
พอตอนปฏิบัติอานาปานสติ พี่ดาเลือกวิธีนั่ง ครั้งนี้ไม่มีแสงสว่างจร้าแต่อย่างใด มันเงียบเบาเห็นความไม่เที่ยงของรูปขันธ์ สังขารขันธ์และสัญญาขันธ์ พอรู้มันก็แค่เห็นแสงสว่างใสเรื่อ ๆ เท่านั้น แต่รู้สึกสลดใจแว๊บตอนครูฮิมพูดว่า ติดอยู่ในสุขคติภูมิ เหมือนรู้ว่าสุขที่ได้เจอมันก็ยังไม่ใช่ของจริง จึงไม่อยากเอา จิตมันเหมือนเย็น ๆ นิ่ง ๆ เฉย ๆ พอตอนจบออกจากสมาธิมันรู้สึกเบา โล่ง เย็น ๆ รบกวนขอสอบถามสภาวะจากการปฏิบัติค่ะ
|
|
|
Post by Da - Thida on Mar 23, 2023 16:37:28 GMT 7
กราบครูฮิม
เพิ่มเติมค่ะ เกี่ยวกับเรื่อง "มุมมอง" "เคลื่อนไหว" และการ "ใส่ใจ" เนื่องจากพี่ดาทราบจุดอ่อนของตัวเองว่าจิตยังไม่เปิดในระหว่างวัน พี่ดาก็ปฏิบัติตามคำแนะนำของอาจารย์ตุลย์ คือ หาเวลาออกไปเดินเงยหน้ากำหนดสตินอกบ้านเนื่องจากพี่ดาต้องก้มหน้าทำงานเกือบทั้งวัน แต่เหมือนยังไม่ดีขึ้น เพิ่งวันนี้ตอนเช้าขณะถูบ้านโดยใช้ไม้ม๊อบ พี่ดาเห็นการเคลื่อนไหวของไม้ถูบ้านจากซ้ายไปขวา จากขวาไปซ้าย แล้ว ทั้ง 3 คำนี้ "มุมมอง" "เคลื่อนไหว" และการ "ใส่ใจ" ก็ผุดขึ้นมา พี่ดาก็เลยกำหนดรู้การเคลื่อนไหว และขยับไม้ถูบ้านให้เป็นความเร็วที่สม่ำเสมอพร้อมรู้ลมหายใจ แล้วพี่ดาก็เห็นภาพการเคลื่อนไหวนั้นมันลอยคมชัดขึ้นมาเหมือนมีมิติ ก็เลยได้ไอเดียที่จะเอาไปฝึกในระหว่างวันคือรู้การเคลื่อนไหวแทนการรู้กาย พอกำหนดรู้การเคลื่อนไหวไม่ว่าจะบิดผ้าถูพื้น หรือ หยิบผ้าขึ้นตากจะเห็นความคมชัดของการเคลื่อนไหวของมือที่ขยับ เปรียบเทียบรู้การเคลื่อนไหวจะง่ายกว่าตอนฝึกรู้กาย
ตอนนี้สังเกตุว่าจิตเข้าถึงการเป็นสมาธิหรือเปิดได้เร็วมากค่ะ พอหลับตาปุ๊บเหมือนจิตพร้อมเปิดนะคะไม่ต้องกำหนดเยอะ ... วันนี้ไป รพ ระหว่างรอคุณหมอไม่อยากทิ้งลมหายใจไปเฉย ๆ ก็ลองนั่งกำหนดรู้ลมซึ่งก็งงกับตัวเองว่าสามารถทำอานาปานสติได้ท่ามกลางเสียงหนวกหู และคนที่เยอะมาก ... จิตเปิดเบา ว่าง และสว่างแบบนวล ๆ มีกระแสความคิดเล็กน้อยเป็นคลื่อนสีเขียวอ่อน ๆ ทั้ง ๆ ที่มีคนนั่งคุยกันข้าง ๆ เห็นจิตเกิดและดับ แต่นั่งได้ไม่นานประมาณ 15 นาที พอดีคุณแม่เรียกเพราะจะถึงคิวตรวจ
และสังเกตว่าตอนนอนพอหลับตาปุ๊บกำหนดลมหายใจปั๊บก็จะปรากฏภาพนิมิตเป็นภาพขาวดำแบบลาง ๆ มาฉายให้ดูเหมือนฉายหนังเลยค่ะ เป็นสถานที่บ้าง คนแต่งตัวชุดสากลโบราณบ้าง สลับไปเรื่อย ๆ แบบจับภาพไม่ได้ แต่ก็รู้สึกเฉย ๆ เห็นก็รู้ว่าเห็น แล้วก็หลับไปนะคะ
ขอสอบถาม ดังนี้ค่ะ
1. ไม่ทราบว่ากรรมฐานดูการเคลื่อนไหวสามารถช่วยให้จิตเปิดในระหว่างวันได้หรือไม่ค๊ะ เพราะไม่แน่ใจภาวะที่เกิดขึ้นมันเป็นแบบฟลุ๊ค ๆ ขึ้นมาหรือเปล่าและก็ไม่แน่ใจว่าในการปฏิบัติจริง ๆ เราจะสามารถรับรู้ทุกการเคลื่อนไหวได้ตลอดยังงัย รบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
|
|
|
Post by Da - Thida on Mar 23, 2023 22:47:58 GMT 7
กราบครูฮิมค่ะ
ขออนุญาตรายงานสภาวะการปฏิบัติและมีคำถามค่ะ ช่วงนี้อาจจะถามบ่อย เพราะพี่ดาสังเกตการเปลี่ยนแปลงของตัวเองในการปฏิบัติค่อนข้างเยอะนะคะ ขอรายงานในการฝึกปฏิบัติรวมญาติในค่ำคืนนี้ค่ะ (EP334 + 247)
วันนี้เข้าห้อง Zoom ช้าไป 9 นาที ไม่ทันสวดมนต์ แต่ทุกครั้งที่เข้ายืนที่หัวเสื่อพี่ดาจะระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย และอาราธนาหลวงปู่ทิมและหลวงปู่ดู่โปรดเมตตาในการปฏิบัติในทางจงกรม พอหลับตาจิตเริ่มเปิดเป็นช่วงที่กำลังแผ่เมตตา จิตเริ่มค่อย ๆ แผ่รวมสว่างโล่งกว้างแบบทุกทีแต่ในคืนนี้มันแปลกตรงที่ว่าเริ่มเห็นความสว่างที่แผ่กว้างนั้นค่อย ๆ ก่อตัวเป็นมวลก้อนใหญ่ต่างหากแล้วค่อย ๆ เลื่อนมาใกล้ เหมือนถูกลมพัดให้แสงสว่างจ้าก้อนนั้นปะทะมาทะลุตัวเราไปทั้งตัว มันปะทะเข้ากับหน้าเต็ม ๆ เหมือนได้รับแสงสว่างพลังก้อนโตเข้าตัวนะคะ พอจังหวะที่เสียงอาจารย์ตุลย์บอกว่าให้เริ่มเดินถอยหลังมันมีสภาพไม่เหมือนเดิม คือ แสงสว่างจ้าหายไปทันที มันเหมือนยืนในความมืด ความเงียบแบบเย็น ๆ มีมวลลมสีขาวลอยคล้ายอากาศแสงสว่างเรื่อ ๆ พอให้เห็น ที่ตามันเหมือนมีการกระตุกและรับรู้สายฟ้าแปล๊บ ๆ ตลอดเหมือนตาจะกระตุกตลอด รู้สึกขาเบาตัวเบาเหมือนเดินอยู่บนอากาศ เห็นละอองปุยเมฆบางๆ แต่ก็รู้ความชัดของฝีเท้ากระทบทุกย่างก้าว ความรู้สึกเหมือนไม่ได้เดินในห้อง ไม่ได้เดินที่เสื่อ ข้างหน้าข้างหลังกว้างไม่มีประมาณ เดินแบบไม่ค่อยมั่นใจเพราะเหมือนไม่ได้เดินบนเสื่อแต่แค่สัมผัสการกระทบของฝีเท้าเท่านั้น เหมือนเดินบนท้องฟ้า รู้สึกความเบากลวงล่วงจากกลางอกที่ผ่านมาไม่เคยรู้ว่าโล่งของแท้เป็นอย่างไร เหมือนไม่มีอะไรอยู่ที่อกเลย เริ่มเห็นจิตเป็นดวงเด่นครั้งแรกแบบชัดเจน แต่ยังไม่ตรงกลางสักทีเดียว เหมือนจิตยืนจ้องกายอย่างชัดเจน เพิ่งรู้สึกเห็นอย่างชัดเจนครั้งแรกว่า กายไม่มีหน้า ไม่มีหัว รู้สึกครึ่งตัว เห็นสภาพจิตที่ปราศจากความคิด ทุกคำบรยายที่เคยได้เริ่มเรียนมาจากอาจารย์ตุลย์และครูฮิมเมื่อ 2 เดือนก่อน รวมทั้งคลิปประถม มัธยม อุดม มันถูกทำให้เห็นชัดเจนและเข้าใจได้ถูกต้องในการเดินจงกรมของวันนีี้ เหมือนคืนนี้เป็นการทบทวนครั้งใหญ่ของพี่ดา เหมือนอะไรที่มันเคยเห็นไม่ชัดหรือยังไม่ได้เห็นจริง ๆ มันได้เห็นวันนี้รวมทั้งรูปที่เป็นโครงกระดูก (เห็นลาง ๆ) พอหลับตาทำอานาปานสติก็เห็นลมหายใจเป็นมวลลมสีขาวออกชัด เหมือนลมหายใจมันโล่งทะลุไปทั้งตัว วันนี้มันมีรายละเอียดเยอะมากเลยค่ะเกินคำบรรยาย พอจบ 2 EP เหมือนขาไม่มีแรง ตัวเบา ใจเบา หัวเบา พอมานั่งนึกทบทวนสภาวะที่เกิดขึ้น เหมือนมีความรู้สึกที่ว่า นี่คือการเริ่มต้น และมีอะไรกำลังรอให้เจออีกข้างหน้า
เมื่อ 3-4 วันก่อนตอนฝึกรวมญาติหรือฝึกคนเดียว (จำไม่ได้แล้วค่ะ) มันมีอาการเหมือนตัวลอยได้เหมือนเห็นภาพตัวเองมองจากที่สูงลงมาตอนแผ่เมตตานะคะ ตอนแรกไม่แน่ใจ พอมันสูงขึ้นไปพอสังเกตเห็นความแตกต่างว่าไม่เหมือนเดิม แต่ก็แค่รับรู้ไม่ได้ตื่นเต้นหรือตระหนกใจนะคะ
คำถามมีดังนี้
1. รบกวนครูฮิมช่วยอธิบายสภาวะที่เกิดขึ้นกับพี่ดาให้ด้วยนะคะ ทุกคนจะต้องผ่านสภาวะแบบนี้หรือไม่ และสภาวะแบบนี้จะเกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวใช่มั๊ยค๊ะ 2. สภาวะพวกนี้ทำไมถึงเกิดขึ้นช่วงนี้ค๊ะ อะไรคือเหตุและปัจจัย เป็นเพราะการฝึกอาปานสติหรือเปล่าค๊ะ
ขอบคุณค่ะ
ปล. ครูฮิมอย่าเพิ่งเบื่อตอบคำถามพี่ดานะคะ ช่วงนี้พี่ดาตั้งใจฝึกมาก ๆ นะคะ และอยากเข้าใจสภาวะที่เกิดขึ้นให้กระจ่างจะได้ไม่หลงผิดค่ะ กลัวไปถามใน LIVE จะใช้เวลานานทำให้ครูและท่านอื่นเสียเวลานะคะ
|
|
|
Post by U on Mar 25, 2023 6:46:30 GMT 7
รายงานสภาวะของ เอ พฤ 23/3/65 รตต ep.106 เช้า
ธรรมะเช้านี้ เข้มข้นลึกซึ้งเหมือนดูหนัง hard core จริงค่ะ เกิดภาวะที่จิตไม่ยึดกาย และเวทนา แต่มองด้วยความเข้าใจ และยิ่งไม่ยึด กลับก่อให้เกิดภาวะปีติสุขที่ทวียิ่งขึ้นไปอีก เหมือนมีสองร่าง ร่างหนึ่งเป็นไปตามธรรมขาติ มีรูปกายเดินไป มีปีติสุขเวทนาเกิดขึ้นไป ตามเหตุปัจจัย และมีอีกตัวหนึ่ง ที่มองภาวะทั้งหมดนี้แบบแค่เห็นเฉยๆ เหมือนคนดูหนังแต่ไม่ได้อินกะหนัง หลังจากนั้น ร่างแรกเค้าก็เปลี่ยนจากการเสพปีติที่ซาบซ่าน มาเสพความสุขที่สงบ ละเอียด จากลมหายใจแทน และอยู่กับสุขตรงนี้ไป แต่เมื่อครูกล่าวถึงพระพุทธเจ้า ก็เกิดความซาบซึ้งในพระคุณของพระองค์ เกิดปีติสะเทือนอย่างใหญ่อีกระลอก และก็จางคลายไป จิตอีกจิตหนึ่งเห็นความเปลี่ยนแปลง แปรปรวนของสภาวะธรรม อันเกิดขึ้นตามธรรมชาตินี้ ด้วยการยอมรับ และความเข้าใจค่ะ
กราบขอบพระคุณครูด้วยความเคารพรักอย่างสุดหัวใจค่ะ🙏🙏🙏
คลาสเช้านี้ ถูกใจสาย hard core มากๆ ค่ะ^^
|
|
|
Post by U on Mar 25, 2023 6:50:31 GMT 7
รายงานสภาวะของ เอ เสาร์ 25/3/65 รตต ep.108
him 45 ขออนุญาตรายงานครูค่ะ
คลาสเช้านี้ ให้ความรู้สึกถึงอนัตตาตั้งแต่ช่วงต้น เดินจงกรมไป เห็นการทำงานของขันธ์ห้าวนไป แปรเปลี่ยนไปเรื่อยๆ มีความรู้สึกชัดเจนขึ้นเป็นครั้งแรก ว่าในการปฏิบัติ ไม่มีอะไรผิด/ถูก หรือ ดี/ไม่ดี ทุกอย่างล้วนเสมอกัน ไม่มีสาระเท่าๆ กัน แต่ที่ผ่านมา เพราะมีหมวกของอัตตาที่ครอบอยู่ จึงหลงให้ค่า/ด้อยค่า ในสิ่งต่างๆ ในความรู้สึกถึงความไม่มีสาระแก่นสารของทุกสิ่ง จึงทำให้ไม่อยากได้ อยากเป็น อยากมีอะไร เพื่อตัวเองอีก และก็เกิดความรู้สึกเป็นครั้งแรกเช่นกันค่ะ ว่ามีประโยชน์อันใดบ้าง ที่ขันธ์ห้านี้ พึงทำให้โลกได้บ้าง ก่อนที่ขันธ์นี้จะแตกดับไป
สุดท้าย น้อมรำลึกด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระพุทธเจ้า พระธรรม และเหล่าพระอริยสงฆ์ท่าน ครูพี่ตุลย์ ครูฮิม และทีมสหธรรมิกในห้องวิปัสสนา ที่ช่วยนำพาให้ขันธ์นี้ ได้ก้าวสู่เส้นทางในการดับทุกข์ร่วมไปกับทุกท่านค่ะ
กราบอนุโมทนาสาธุการกับทุกท่านนะคะ 🙏🙏🙏
|
|
|
Post by U on Mar 25, 2023 6:55:10 GMT 7
รายงานสภาวะของ เอ รอบกองไฟ อ.21/3/65
him 45 ขออนุญาตรายงานครูค่ะ
ในคลาสวันนี้ รับรู้ถึงความปรุงแต่ง จากการตั้งใจหรือเจตนาที่จะมองทุกอย่างเป็นของเคลื่อน เห็นการรับรู้แบบที่เห็นเป็นการเคลื่อนนั้น ก็เป็นเพียงสภาวะหนึ่ง ที่ถูกปรุงมาให้รู้เช่นนั้น
การเห็นเป็นช็อตๆ ตอนแรกที่ฟังครูไกด์ จิตเหมือนจะเห็นแบบภาพทีละภาพต่อๆ กัน จนเหมือนเป็นภาพที่เคลื่อนไหวได้ แต่พอสักพัก จิตเกิดการรับรู้แบบไม่เป็นภาพกาย ที่มีเนื้อตัวแขนขา แต่เห็นเป็นส่วนๆ ตามแต่ประสาทสัมผัสจะรับรู้ส่วนไหนขึ้นมา ณ ขณะหนึ่งๆ ซึ่งไม่ให้ความรู้สึกว่าเป็นกายเลยค่ะ เหมือนเป็นแค่ อะไรบางอย่าง ที่วูบวาบขึ้นมาให้มีการรับรู้เท่านั้นค่ะ
|
|
|
Post by U on Mar 25, 2023 6:57:27 GMT 7
รายงานสภาวะของ เอ รตต ep105 ส.18/3/65
him 45 กราบเรียนครูค่ะ
เช้านี้เป็นอีกก้าวสำคัญ ที่ได้เรียนรู้การเจริญสติปัฎฐาน และเห็นล้อไปกับโพชฌงค์ หลังจากจบคลาส หยุดครู่หนึ่งจึงเดินต่อ เห็นจิตเสื่อมจากสมาธิก่อนจบคลาส จึงเริ่มต้นใหม่ จากการพิจารณา เวทนา จิต ธรรม สั้นๆ เป็นลำดับ เห็นวงจรการเกิด เสื่อม ดับ ของสภาวะธรรม มองกายที่กำลังเดินและจิตตอนนั้น ไม่รู้สึกว่าเป็นกายและจิต แต่เป็นเหมือนมวลก้อน ที่มีแรงขับเคลื่อน แปรปรวนอยู่ภายใน รู้สึกว่าก้อนๆนั้น ก็แค่สิ่งหนึ่ง อะไรที่ไปรับรู้ ก็แค่อีกสิ่งหนึ่ง ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้น เสื่อมลงและดับไป แบบนี้ไม่รู้จบ แต่นั่นก็เป็นธรรมดา ธรรมชาติ
มีบางขณะเล็กๆ จากการเห็นแบบนี้ แล้วเกิดภาวะปีติ เจือปนสลดใจ และเกิดความวางเฉย แต่เพียงครู่เดียว ภาวะนั้น ก็แปรเปลี่ยนไปอีกเช่นกันค่ะ
น้อมกราบขอบพระคุณอย่างยิ่งในความเมตตาและกรุณาของครูทั้งสองท่านค่ะ 🙏🙏🙏
|
|
|
Post by U on Mar 25, 2023 7:01:41 GMT 7
รายงานสภาวะของเอ รตต ep103 พฤ 16/3/65
ชอบ ep นี้มากๆ ค่ะ รู้สึกว่าลมหายใจพาไปรู้จักชีวิตจริงๆ เห็นลมหายใจ เข้า ออก ล้วนมีแต่ความบีบคั้นทั้งทางกายและใจ สภาวะอื่นนอกจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นกายเดิน การยกมือ ความว่าง สว่าง ความคิด ความปรุงแต่ง ความรู้สึกต่างๆ รวมล้วนเป็นองค์ประกอบชีวิต หรือผัสสะ ที่เกิดและดับ แปรเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่มีความเป็นแก่นสาร
ความรู้สึกรวมที่ออกมา คือ ทั้งหมดนี้ คือ ทุกข์ ค่ะ
เป็นครั้งแรก ที่เริ่มรู้สึกขึ้นมาจริงๆ ว่ามองกายใจนี้ ไม่ใช่ของเรา แม้แต่จิตที่รู้ที่ดูอยู่ ก็เป็นแค่จิตๆ หนึ่งค่ะ
กราบขอบพระคุณครูทั้งสองท่านอย่างสูงค่ะ 🙏🙏🙏 him 45
|
|
|
Post by เจมี่ shunami on Mar 26, 2023 6:07:33 GMT 7
สวัสดีค่ะพี่ฮิม 🙇♀️กราบขอบพระคุณในธรรมข้ออนัตตา แม้ฟังเปิดรีรัน เช้านี้รับกระแสอนัตตาใด้แรง ไม่ว่าจะเห็นอนัตตาในสัญญา ไม่ว่าจะเห็นอัตตาและอนัตตาในสังขาร ก็เห็นต่างมุมไป เห็นในมุมที่เป็นอนัตตาและอัตตาที่เป็นของกลาง เห็นเป็นขันธ์รวมค่ะ เช่นเช้านี้เห็นสังสารปรุ่งแต่ง จิตที่ครอบครองชีวิตนี้ คือความคิดที่เป็นมุมกว้าง คือจิตดวงนั้นไม่ใด้อาศัยในกายเล็กๆนี้ แต่มีจิตดวงหนึ่งที่คิดจะครอบครองโลกนี้ ด้วยจิตดวงเดียว ที่เหมือนกันทั้งจักวาล จะว่าไปแล้วจิตดวงนี้ ก็ไม่ใช่เรา เพราะเป็นจิตดวงเดียวกันที่คิดปรุ่งแต่ง ขึ้นมา จะครอบครองทุกสิ่งในจักวาลนี้ จึงเสมอกันกะขันธ์นอกอื่นๆค่ะ และรับกระสัมผัสใด้เป็นระยะ พี่ฮิมก็ไม่มีอยู่จริง พี่ฮิมก็เป็นอนัตตาในความรู้สึกตอนนั้นค่ะ และกระแสพลังอนัตตานี้ ส่งอิทธิพลไปในระหว่างวันด้วย ทำให้จิตทรงอนัตตาอารมณ์เอง ทั้งเรา คนอื่น สิ่งอื่นภายนอกจิตเห็นเป็นอนัตตา เห็นเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ใด้ มีจริง แต่ก็ไม่มีอยู่จริง เหมือนเข้าไปอยู่ในจักวาล ของการสมมุติค่ะ
|
|
|
Post by nutty Jeezooya on Mar 26, 2023 8:05:27 GMT 7
🙏🙏🙏คะบุญรักษานะคะขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วยทุกประการกับค่ำคืนวันเสาร์และเช้าวันอาทิตย์ได้เข้ารวมญาติกับเพื่อน... ยังคงอินกับEPนี้อยู่สภาวะมันติดออกมาในระหว่างวันด้วยบ้างแต่เบาบาง คืนวันเสาร์เลิกงานค่ำ ไม่ได้เข้าเวิร์คชอปกับสหธรรม เพราะไปเผชิญกับสนามยุทธหัตถีของจริงแทน.... ตรงนี้อยากเล่าให้เพื่อนฟังนะคะ ตอนเผชิญปัญหากับวิบากจริงในชีวิตประจำวันแบบรุนแรงทั้งทางกาย ทางใจ เกิดการแยกส่วนของความคิด จิต กาย ออกจากกันเอง ในเวลาที่ถูกน้ำร้อนแห่งโทสะภายนอกสาดมากระทบ มันโดนเปลือก แต่ไม่เข้าถึงใจเลย มีเกราะแก้วเคลือบป้องกันไว้อย่างดี เราตอบโต้มีแต่ปากตามเหตุปัจจัยที่ต้องทำ ณ ขณะนั้น เห็นธรรมะผุดเกิดสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้คือปัจจัยภายนอก เราทำได้แค่ควบคุม ประคองจิตใจของเราให้มีสติ ให้ดีๆ (รักษาใจคือรักษาธรรมของพ่อแม่ครูอาจารย์) ถึงเวลาพูดก็พูด ถึงเวลาเงียบๆ มันเกิดขึ้นเอง มันทำไปด้วยความเข้าใจ จิตมันกล้าหาญมาก ที่ฝึกๆทำๆมาไม่สูญเปล่าใจมันแยกไปอยู่ต่างหากไม่กระเพื่อมๆก็น้อยมาก ความโล่งว่างสว่าง สบายคงนิ่งอยู่เช่นนั้น เมื่อเรื่องราวจบความยืดเยื้อปรุงแต่งต่อแทบจะไม่มี เรียกว่าเหลือ 1 % ที่ยังคงค้างซึ่งบางมาก ไม่มีความเร้าร้อน ฟุ้งซ่านเกาะเกี่ยวความวุ่นวายใจเลย... 😁🌹🌿ยิ่งมีฉันทะปฏิบัติ ยิ่งมีกำลังใจมากขึ้น ยิ่งไม่หวาดหวั่นกับทกข์ที่จะถาโถมเข้ามาแบบไม่เลือกเวลา พอใจที่จะรับและเรียนรู้มันไปได้ด้วยจิตตั้งมั่นอย่างมีสติ สมาธิ ปัญญา คะ 🙏🙏🙏ในทุกธรรมะที่ได้ฟังทุกคำสอนของครูทั้งสองท่านที่ตี้นำมาปฏิบัติใช้มันเป็นเครื่องมือในสนามจริง ขอบพระคุณทุกเครื่องมือที่ให้ตี้ติดตัว สติ ศีล สมาธิ ปัญญา 💛ทุกวันนี้ตี้รู้จักการยอมแพ้ต่อทางโลก เพื่อรักษาธรรมในจิตใจไว้ รู้จักที่จะมีเมตตาเข้าไปรักษาใจให้ผู้อื่นให้ไม่สร้างบาปอกุศลเพิ่มเติม ✖️รู้จักจบที่เรา ✖️ดับที่เรา ✖️ไม่มีกลัวคำว่าเสียหน้าเสียตาเลย ระลึกรู้ในทันที่ว่าทุกคนต้องตายจากกันอยู่แล้ว ไม่มีอะไรน่ายึดกับโลกใบนี้ สิ่งที่ได้กลับมาคือความสบายใจ ความอิ่มเอมใจแทนที่ ไม่แบกไม่หนักเหมือนก่อนมาปฏิบัติธรรมเลยคะ
|
|
|
Post by U on Apr 1, 2023 8:33:31 GMT 7
รายงานสภาวะของ เอ ศ 31/3/66 รตต ep.109 เช้า
him 45 วันนี้ปีติสุขมาท่วมท้นจริงๆ ค่ะ ช่วงที่ครูโค้ชพี่ต่าย ฟังแล้วซาบซึ้งเข้าไปถึงกลางหัวใจ กราบขอบพระคุณในคำครู และอนุโมทนากับพี่ต่ายอย่างยิ่งค่ะ และในปีติสุขที่ท่วมท้นนั้น ทำให้เห็นฉันทราคะได้ชัดเจนค่ะ บางขณะเห็นจิตแยกออกไปเป็นเพียงผู้ดู สลับกับการเข้าไปเสพรับความสุขเอง และ รับรู้ได้ว่าปีติสุข เปรียบเหมือนสายน้ำที่ชุ่มชื่น เป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยหล่อเลี้ยง ให้จิตมีกำลัง เพื่อเดินหน้าต่อในเส้นทางอันยาวไกลนี้ค่ะ
กราบอนุโมทนากับครูท่านทั้งสอง ทีมแอดมิน และเพื่อนร่วมทีมทุกท่าน ที่ร่วมเดินทางและประคับประคองกันมา ในเส้นทางเดินเพื่อถึงที่สุดแห่งทุกข์ไปด้วยกันนะคะ
ขอน้อมกราบจากใจค่ะ 🙏🙏🙏
him 45 ขอเพิ่มเติมอีกนิดค่ะครู ในคลาส นอกจากปีติสุขแล้ว จิตรู้สึกถึงความทุกข์ไปด้วยค่ะ นึกถึงที่พี่ตุลย์ท่านโค้ชไว้ในไลฟ์เมื่อวาน ว่าเราต่างเป็นนักเดินทางผู้โดดเดี่ยว สังสารวัฏนี้มีให้เพียงความเหงาและความเศร้า
การสัมผัสถึงทั้งความสุขและทุกข์ ไปด้วยกันแบบนี้ แม้กระทั่งออกจากไลฟ์เมื่อเช้าไปแล้ว ให้ความรู้สึกซาบซึ้งแบบยากที่จะบรรยายจริงๆ ค่ะ
ครูฮิม: ถ้าเป็นคนธรรมดาคงรู้สึกขัดแย้งในใจน่าดู แต่การภาวนาทำให้เราเห็นซึ้งขึ้นไปอีกว่า ใดๆ ล้วนแล้วแต่ เวทนาขันธ์
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - รายงานสภาวะของ เอ ส 25/3/66 รตต ep.108 เช้า
him 45 ขออนุญาตรายงานครูค่ะ
คลาสเช้านี้ ให้ความรู้สึกถึงอนัตตาตั้งแต่ช่วงต้น เดินจงกรมไป เห็นการทำงานของขันธ์ห้าวนไป แปรเปลี่ยนไปเรื่อยๆ มีความรู้สึกชัดเจนขึ้นเป็นครั้งแรก ว่าในการปฏิบัติ ไม่มีอะไรผิด/ถูก หรือ ดี/ไม่ดี ทุกอย่างล้วนเสมอกัน ไม่มีสาระเท่าๆ กัน แต่ที่ผ่านมา เพราะมีหมวกของอัตตาที่ครอบอยู่ จึงหลงให้ค่า/ด้อยค่า ในสิ่งต่างๆ ในความรู้สึกถึงความไม่มีสาระแก่นสารของทุกสิ่ง จึงทำให้ไม่อยากได้ อยากเป็น อยากมีอะไร เพื่อตัวเองอีก และก็เกิดความรู้สึกเป็นครั้งแรกเช่นกันค่ะ ว่ามีประโยชน์อันใดบ้าง ที่ขันธ์ห้านี้ พึงทำให้โลกได้บ้าง ก่อนที่ขันธ์นี้จะแตกดับไป
สุดท้าย น้อมรำลึกด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระพุทธเจ้า พระธรรม และเหล่าพระอริยสงฆ์ท่าน ครูพี่ตุลย์ ครูฮิม และทีมสหธรรมิกในห้องวิปัสสนา ที่ช่วยนำพาให้ขันธ์นี้ ได้ก้าวสู่เส้นทางในการดับทุกข์ร่วมไปกับทุกท่านค่ะ
กราบอนุโมทนาสาธุการกับทุกท่านนะคะ 🙏🙏🙏
|
|